На этой странице может содержаться сторонний контент, который предоставляется исключительно в информационных целях (не в качестве заявлений/гарантий) и не должен рассматриваться как поддержка взглядов компании Gate или как финансовый или профессиональный совет. Подробности смотрите в разделе «Отказ от ответственности» .
Баланс: важнейший инструмент, который должны знать инвесторы
Balance Sheet คืออะไร จริง ๆ ?
งบแสดงฐานะทางการเงิน (Balance Sheet) ไม่ใช่เพียงเอกสารสำนักงาน แต่เป็นภาพถ่ายฐานะทางการเงินของบริษัทในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง ที่บอกให้เห็นว่ากิจการมีสินทรัพย์เท่าไร ต้องชำระหนี้เท่าไร และเจ้าของจริง ๆ มีส่วนแท้จริงเท่าไร
มันเป็นเทคนิคที่ช่วยให้นักลงทุนมองผ่านตัวเลขขนาดใหญ่ เพื่อเข้าใจสุขภาพการเงินที่แท้จริงของบริษัท ไม่ว่าคุณลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ หรือแม้แต่ crypto assets
โครงสร้างหลักของ Balance Sheet
สูตรง่าย ๆ ที่คุณต้องจำ:
สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ
ทำไมเรียกว่า Balance Sheet? เพราะทั้งสองข้างต้องเท่ากันเสมอ เหมือนตาชั่งที่ดุล
สินทรัพย์ (Assets): ทรัพย์สินที่บริษัทถือครอง
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท:
สินทรัพย์หมุนเวียน - ของที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้ภายใน 1 ปี อย่างเงินสด ลูกหนี้ สินค้าคงเหลือ บัตรเครดิต (ในบริบท crypto คิดได้เหมือนคริปโตที่เก็บในกระเป๋าสัญญา)
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน - ของที่ใช้เวลาหลายปีจึงจะขายได้ เช่น โรงงาน ที่ดิน เครื่องจักร ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร
หนี้สิน (Liabilities): ภาระผูกพัน
หนี้สินหมุนเวียน - ต้องจ่ายในเร็ว ๆ นี้ (ภายใน 1 ปี) เช่น เจ้าหนี้การค้า ภาษีค้างชำระ เงินเดือนค้างจ่าย
หนี้สินไม่หมุนเวียน - อกหนี้ที่ยาวนาน เช่น เงินกู้ธนาคารระยะยาว หุ้นกู้ระยะยาว
ส่วนของเจ้าของ (Equity): ตัวตนของกิจการ
นี่คือส่วนที่เจ้าของและผู้ถือหุ้นจะได้รับจริง ๆ หลังจากหักหนี้สินทั้งหมด ประกอบด้วย:
วิธีอ่านงบแสดงฐานะทางการเงินให้เข้าใจ
ขั้นตอน 1: จำโครงสร้างพื้นฐาน
ก่อนดูตัวเลข จำไว้ว่างบนี้ประกอบด้วยสามส่วน สินทรัพย์ (ทรัพย์สิน) หนี้สิน (ภาระผูกพัน) และส่วนของเจ้าของ (มูลค่าแท้) เมื่อไหร่ที่คุณมองเห็นสมดุลนี้ คุณจะเข้าใจบัญชีได้ดีขึ้น
ขั้นตอน 2: ประเมินสภาพคล่อง
เปรียบเทียบสินทรัพย์หมุนเวียนกับหนี้สินหมุนเวียน ถ้าสินทรัพย์หมุนเวียนมากกว่า แสดงว่าบริษัทสามารถชำระหนี้ในระยะสั้นได้ ข้อมูลนี้สำคัญต่อนักลงทุนเพราะแสดงความปลอดภัยของเงินลงทุน
ขั้นตอน 3: วิเคราะห์ความสามารถทำกำไร
ดูส่วนของเจ้าของ ถ้ากำไรสะสมเพิ่มขึ้นปีต่อปี แสดงว่าบริษัททำกำไรได้ตลอด หากเห็นขาดทุนสะสมพุ่งขึ้น นั่นคือสัญญาณเตือน
ขั้นตอน 4: เปรียบเทียบกับบริษัทอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน
องค์ประกอบของ Balance Sheet แตกต่างกันไปตามอุตสาหกรรม ดังนั้นการเปรียบเทียบในอุตสาหกรรมเดียวกันจึงมีความหมายมากกว่า
ที่ไหนหาข้อมูล Balance Sheet?
นักลงทุนไทยสามารถตรวจสอบงบการเงินของบริษัทได้ที่เว็บไซต์ Datawarehouse.dbd.go.th โดยเข้าไปที่ “ข้อมูลนิติบุคคลและงบการเงิน” แล้วพิมพ์ชื่อกิจการที่สนใจ
คุณสามารถเลือกดูงบแสดงฐานะทางการเงินของปีต่างกัน เปรียบเทียบกับบริษัทอื่นในสาขาเดียวกัน และดูอัตราส่วนทางการเงินต่าง ๆ ได้
ข้อควรระวังเมื่ออ่านงบดุล
1. ข้อมูลอดีต: Balance Sheet แสดงข้อมูลในวันที่จัดทำเท่านั้น ไม่ใช่ข้อมูล Real Time ถ้าเกิดเหตุการณ์สำคัญหลังจากวันนั้น ตัวเลขอาจไม่ทันสมัย
2. ความเสี่ยงจากการตกแต่งตัวเลข: บางบริษัทอาจใช้วิธีบัญชีต่างกันเพื่อแสดงภาพที่สวยกว่า อัตราส่วนทางการเงินจึงอาจทำให้เข้าใจผิด
3. อิทธิพลจากสิ่งแวดล้อม: สภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง (เงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย การลดค่าเงิน) อาจทำให้ตัวเลขในบัญชีหลายปีเปรียบเทียบไม่ได้ ต้องดูข้อมูลบริบทด้วย
4. ข้อจำกัดของเวลา: Balance Sheet ถ่ายภาพในเวลาหนึ่ง ไม่ได้บอกเรื่องราวทั้งหมด ต้องศึกษางบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด และสัญญาณตลาดด้วย
สรุป
Balance Sheet เป็นเครื่องมือสำคัญที่บอกความเป็นจริงของบริษัท ผ่านการแสดง สินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของ อย่างชัดเจน ไม่ว่าคุณเป็นผู้บริหารที่วางแผนกลยุทธ์ หรือนักลงทุนที่ต้องการตัดสินใจลงทุน การเข้าใจวิธีอ่านงบแสดงฐานะทางการเงินนี้จะช่วยคุณประเมินสถานะและศักยภาพของกิจการได้อย่างแท้จริง
แต่ความสำคัญไม่แพ้กัน อย่าลืมพิจารณาข้อมูลอื่น ๆ เช่น งบกำไรขาดทุน เทรนด์ราคา ข่าวสาร และปัจจัยอื่น ๆ ของตลาด จึงจะได้ภาพที่ชัดเจนและตัดสินใจลงทุนได้ดียิ่งขึ้น