นักลงทุนจำนวนมากมักถามตัวเอง: กิจการนี้ทำเงินได้จริงไหม? เงินไปไหนหมด? ทำไมยังมีกำไร ถึงดูเหมือนวุ่นวาย คำตอบทั้งหมดอยู่ในเอกสารที่เรียกว่า Profit and Loss Statement หรือ P&L ซึ่งในภาษาไทยเรารู้จักกันในชื่อ งบกำไรขาดทุน
งบการเงินประเภทนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขเปล่า ๆ แต่เป็นเรื่องราวของกิจการที่บอกให้เราทราบว่า:
Profit and Loss Statement (P&L) คือ รายงานการเงินที่แสดงผลการดำเนินงานของกิจการในช่วงเวลาที่กำหนด โดยเปิดเผยว่ากิจการมีกำไรหรือขาดทุน มาจากสูตรคำนวณพื้นฐาน:
รายได้รวม (Total Revenue) - ค่าใช้จ่ายรวม (Total Expenses) = กำไรหรือขาดทุน
ดูเหมือนง่าย แต่ในความเป็นจริง การคำนวณนั้นมีรายละเอียดเยอะมาก:
ไม่ใช่ทุก “กำไร” จะเท่ากัน P&L แสดงให้เห็นกำไรหลายระดับ แต่ละระดับบอกอะไรต่างกัน:
สูตร: รายได้ - ต้นทุนการขาย = Gross Profit
ระดับนี้บอกว่าสินค้า/บริการขายได้ในราคาที่สูงกว่าต้นทุนเท่าไร หากองค์กรมี Gross Profit สูง แสดงว่าสามารถตั้งราคาได้ดี หรือมีการควบคุมต้นทุนที่ดี
ตัวอย่างง่าย ๆ: ผู้ผลิตเสื้อขายเสื้ออันหนึ่งในราคา 500 บาท ส่วนต้นทุนการผลิต (วัตถุดิบ + แรงงาน) อยู่ที่ 200 บาท ดังนั้น Gross Profit ต่อเสื้อหนึ่งตัวคือ 300 บาท
สูตร: Gross Profit - ค่าใช้จ่ายทั่วไป (ขาย, บริหาร) = Operating Profit
ที่นี่เราเริ่มหักค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นเพื่อให้ธุรกิจยังวิ่งได้: ค่าโฆษณา, ค่าเช่าสำนักงาน, เงินเดือนพนักงาน ตัวเลขนี้บอกว่าการดำเนินธุรกิจในระดับหลักเป็นไปในทิศทางที่ดีหรือไม่
สูตร: รายได้ทั้งหมด - ค่าใช้จ่ายทั้งหมด (รวมภาษี, ดอกเบี้ยธนาคาร) = Net Profit
นี่คือตัวเลขที่ “จริง” ที่สุด - เงินที่กิจการเหลือหลังจากหักทุกค่าใช้จ่าย เป็นตัวบอกว่ากิจการพร้อมจะจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นหรือนำไปลงทุนต่อได้เท่าไร
การทำ P&L ไม่ได้แค่ลบเลขง่าย ๆ มีกระบวนการเรียงลำดับ:
ทุกขั้นตอนนี้สำคัญ เพราะแต่ละขั้นบอกให้เรารู้ว่าอะไรคือสาเหตุของผลกำไรหรือขาดทุน
มี 2 รูปแบบหลักที่ใช้กันทั่วไป:
จัดเรียงแบบตั้งตรง เรียงลำดับจากบนลงล่าง:
ข้อดี: อ่านง่าย ทำให้เข้าใจผลประกอบการได้เร็ว
จัดเป็นตัว T ด้านซ้ายเป็นค่าใช้จ่าย ด้านขวาเป็นรายได้:
192.31K 人気度
50.93K 人気度
28.35K 人気度
10.03K 人気度
5.28K 人気度
なぜP&Lステートメントを読む必要があるのか?損益計算書とは何か、そしてなぜ投資家にとって重要なのか
เริ่มต้นจากคำถาม ธุรกิจมีกำไรจริง ๆ หรือไม่?
นักลงทุนจำนวนมากมักถามตัวเอง: กิจการนี้ทำเงินได้จริงไหม? เงินไปไหนหมด? ทำไมยังมีกำไร ถึงดูเหมือนวุ่นวาย คำตอบทั้งหมดอยู่ในเอกสารที่เรียกว่า Profit and Loss Statement หรือ P&L ซึ่งในภาษาไทยเรารู้จักกันในชื่อ งบกำไรขาดทุน
งบการเงินประเภทนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขเปล่า ๆ แต่เป็นเรื่องราวของกิจการที่บอกให้เราทราบว่า:
P&L คืออะไร? องค์ประกอบพื้นฐาน
Profit and Loss Statement (P&L) คือ รายงานการเงินที่แสดงผลการดำเนินงานของกิจการในช่วงเวลาที่กำหนด โดยเปิดเผยว่ากิจการมีกำไรหรือขาดทุน มาจากสูตรคำนวณพื้นฐาน:
รายได้รวม (Total Revenue) - ค่าใช้จ่ายรวม (Total Expenses) = กำไรหรือขาดทุน
ดูเหมือนง่าย แต่ในความเป็นจริง การคำนวณนั้นมีรายละเอียดเยอะมาก:
ลงลึกเข้าไปในโครงสร้าง: กำไรแต่ละชั้น
ไม่ใช่ทุก “กำไร” จะเท่ากัน P&L แสดงให้เห็นกำไรหลายระดับ แต่ละระดับบอกอะไรต่างกัน:
ขั้นแรก: กำไรขั้นต้น (Gross Profit)
สูตร: รายได้ - ต้นทุนการขาย = Gross Profit
ระดับนี้บอกว่าสินค้า/บริการขายได้ในราคาที่สูงกว่าต้นทุนเท่าไร หากองค์กรมี Gross Profit สูง แสดงว่าสามารถตั้งราคาได้ดี หรือมีการควบคุมต้นทุนที่ดี
ตัวอย่างง่าย ๆ: ผู้ผลิตเสื้อขายเสื้ออันหนึ่งในราคา 500 บาท ส่วนต้นทุนการผลิต (วัตถุดิบ + แรงงาน) อยู่ที่ 200 บาท ดังนั้น Gross Profit ต่อเสื้อหนึ่งตัวคือ 300 บาท
ขั้นที่สอง: กำไรจากการดำเนินงาน (Operating Profit / EBIT)
สูตร: Gross Profit - ค่าใช้จ่ายทั่วไป (ขาย, บริหาร) = Operating Profit
ที่นี่เราเริ่มหักค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นเพื่อให้ธุรกิจยังวิ่งได้: ค่าโฆษณา, ค่าเช่าสำนักงาน, เงินเดือนพนักงาน ตัวเลขนี้บอกว่าการดำเนินธุรกิจในระดับหลักเป็นไปในทิศทางที่ดีหรือไม่
ขั้นสุดท้าย: กำไรสุทธิ (Net Profit / Net Income)
สูตร: รายได้ทั้งหมด - ค่าใช้จ่ายทั้งหมด (รวมภาษี, ดอกเบี้ยธนาคาร) = Net Profit
นี่คือตัวเลขที่ “จริง” ที่สุด - เงินที่กิจการเหลือหลังจากหักทุกค่าใช้จ่าย เป็นตัวบอกว่ากิจการพร้อมจะจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นหรือนำไปลงทุนต่อได้เท่าไร
โครงสร้างการคำนวณ P&L แบบละเอียด
การทำ P&L ไม่ได้แค่ลบเลขง่าย ๆ มีกระบวนการเรียงลำดับ:
ทุกขั้นตอนนี้สำคัญ เพราะแต่ละขั้นบอกให้เรารู้ว่าอะไรคือสาเหตุของผลกำไรหรือขาดทุน
การจัดรูปแบบ P&L: แบบไหนถูกต้อง?
มี 2 รูปแบบหลักที่ใช้กันทั่วไป:
1. รูปแบบรายงาน (Report Form)
จัดเรียงแบบตั้งตรง เรียงลำดับจากบนลงล่าง:
ข้อดี: อ่านง่าย ทำให้เข้าใจผลประกอบการได้เร็ว
2. รูปแบบบัญชี (Account Form)
จัดเป็นตัว T ด้านซ้ายเป็นค่าใช้จ่าย ด้านขวาเป็นรายได้: