## Long และ Short คือ - ทำความเข้าใจคำสั่งเทรดพื้นฐาน
ในวงการเทรดสินทรัพย์ คำสั่ง Long และ Short เป็นแนวคิดหลักที่นักเทรดทุกคนต้องเรียนรู้ คำสั่งทั้งสองนี้ช่วยให้คุณสามารถทำกำไรไม่ว่าตลาดจะเคลื่อนตัวไปทางใด ลองมาศึกษาคำสั่งเหล่านี้อย่างละเอียดกัน
คำสั่ง Long และ Short ไม่ได้มีให้ใช้กับเครื่องมือทางการเงินทั้งหมด เครื่องมืออนุพันธ์ (Derivatives) เช่น Futures, Options, CFD และสัญญาที่มีการซื้อขายในตลาดอื่นๆ ล้วนรองรับคำสั่งทั้งสองนี้ได้
นักลงทุนควรตรวจสอบหลักเกณฑ์ของแพลตฟอร์มเทรดแต่ละแห่งเพื่อทราบว่าอนุญาตให้ส่งคำสั่ง Short ได้หรือไม่ เนื่องจากไม่ใช่ทุกประเภทสินทรัพย์จะอนุญาตให้ใช้วิธีนี้
## เมื่อไหร่ใช้ Long และเมื่อไหร่ใช้ Short
**ใช้ Long เมื่อ:** - ตลาดมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น - คุณคาดหวังว่าราคาจะเพิ่มขึ้น - ข้อมูลบวกปรากฏตัวในตลาด
**ใช้ Short เมื่อ:** - ตลาดมีแนวโน้มปรับตัวลดลง - คุณคาดหวังว่าราคาจะลดลง - มีข้อมูลลบที่อาจกดดันราคา
Short คือ ทางเลือกที่ให้นักเทรดสามารถทำกำไรจากทั้งสองทิศทางของตลาด ไม่ว่าจะขาขึ้นหรือขาลง ทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการจัดการความเสี่ยงและการบริหารพอร์ตโฟลิโอ
## Long และ Short คือ - ทำความเข้าใจคำสั่งเทรดพื้นฐาน
ในวงการเทรดสินทรัพย์ คำสั่ง Long และ Short เป็นแนวคิดหลักที่นักเทรดทุกคนต้องเรียนรู้ คำสั่งทั้งสองนี้ช่วยให้คุณสามารถทำกำไรไม่ว่าตลาดจะเคลื่อนตัวไปทางใด ลองมาศึกษาคำสั่งเหล่านี้อย่างละเอียดกัน
## Short คือ - คำสั่งขายก่อนและซื้อคืนทีหลัง
**Short Position** หมายความว่านักเทรดส่งคำสั่งให้ขายสินค้าก่อนที่ราคายังสูง โดยคาดหวังว่าราคาจะเคลื่อนตัวลงในอนาคต เมื่อราคาลดลงตามที่คาดไว้ นักเทรดก็จะซื้อสินค้านั้นคืนในราคาที่ต่ำกว่า ส่วนต่างราคานั้นก็จะกลายเป็นกำไรของเขา
Short คือ กลยุทธ์ที่ใช้เมื่อคุณมองว่าตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงลดตัว คุณไม่จำเป็นต้องรอให้ราคาสูงขึ้นเพื่อทำกำไร แต่อาจทำกำไรจากการลดตัวของราคาได้เช่นกัน
**ตัวอย่าง Short Selling:** สมมติว่านักเทรดคนหนึ่งยืมหุ้นบริษัท ORANGE 100 หุ้นจากโบรกเกอร์ และนำมาขายในตลาดที่ราคา 350 เหรียญต่อหุ้น จึงได้รับเงิน 35,000 เหรียญทันที ต่อมาข่าวลือบอกว่าประเทศที่มีวัตถุดิบส่งออกให้บริษัท ORANGE จะระงับการส่งออก ราคาหุ้นจึงลดตัวลงเหลือ 300 เหรียญต่อหุ้น นักเทรดจึงซื้อหุ้นคืน 100 หุ้นที่ราคา 300 เหรียญ ใช้เงินไป 30,000 เหรียญ และส่งหุ้นกลับให้โบรกเกอร์ ผลสุดท้ายทำกำไรได้ 5,000 เหรียญ
## Long Position - ซื้อก่อนและขายเมื่อราคาสูง
**Long Position** คือการส่งคำสั่งซื้อสินค้า เมื่อคุณคาดหวังว่าราคาจะเพิ่มขึ้น เมื่อราคาสูงตามการคาดการณ์ คุณจะขายสินค้านั้นออกไปและรับส่วนต่างราคาเป็นกำไร
นี่เป็นวิธีดั้งเดิมที่สุดในการทำกำไรจากการเทรด - ซื้อถูกและขายแพง
**ตัวอย่าง Long Position:** ทิมได้ข่าวว่าผลประกอบการปี 2563 ของบริษัท PEAR มีรายได้ดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว จึงเชื่อว่าราคาหุ้นจะปรับสูงขึ้น ทิมซื้อหุ้น PEAR 100 หุ้นที่ราคา 350 เหรียญต่อหุ้น ใช้เงิน 35,000 เหรียญ เมื่อนักลงทุนรายอื่นได้ข่าวเดียวกัน ราคาหุ้น PEAR ปรับตัวสูงขึ้นเป็น 400 เหรียญต่อหุ้น ทิมจึงขายหุ้นออกมา 100 หุ้นได้เงิน 40,000 เหรียญ ทำกำไรได้ 5,000 เหรียญจากการปิดสถานะ
## Long และ Short ต่างจากเครื่องมืออื่น
คำสั่ง Long และ Short ไม่ได้มีให้ใช้กับเครื่องมือทางการเงินทั้งหมด เครื่องมืออนุพันธ์ (Derivatives) เช่น Futures, Options, CFD และสัญญาที่มีการซื้อขายในตลาดอื่นๆ ล้วนรองรับคำสั่งทั้งสองนี้ได้
นักลงทุนควรตรวจสอบหลักเกณฑ์ของแพลตฟอร์มเทรดแต่ละแห่งเพื่อทราบว่าอนุญาตให้ส่งคำสั่ง Short ได้หรือไม่ เนื่องจากไม่ใช่ทุกประเภทสินทรัพย์จะอนุญาตให้ใช้วิธีนี้
## เมื่อไหร่ใช้ Long และเมื่อไหร่ใช้ Short
**ใช้ Long เมื่อ:**
- ตลาดมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
- คุณคาดหวังว่าราคาจะเพิ่มขึ้น
- ข้อมูลบวกปรากฏตัวในตลาด
**ใช้ Short เมื่อ:**
- ตลาดมีแนวโน้มปรับตัวลดลง
- คุณคาดหวังว่าราคาจะลดลง
- มีข้อมูลลบที่อาจกดดันราคา
Short คือ ทางเลือกที่ให้นักเทรดสามารถทำกำไรจากทั้งสองทิศทางของตลาด ไม่ว่าจะขาขึ้นหรือขาลง ทำให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการจัดการความเสี่ยงและการบริหารพอร์ตโฟลิโอ