XI (Excluding Interest) หมายความว่าคุณจะไม่ได้รับดอกเบี้ย ส่วน XP (Excluding Principal) หมายความว่าคุณจะไม่ได้รับเงินต้นที่บริษัทประกาศจ่ายคืน
XA: ไม่ได้รับสิทธิใดๆ เลย
XA ย่อมาจาก Excluding All นี่คือเครื่องหมายที่ครอบคลุมทั้งหมด หากซื้อขณะมี XA คุณจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ใดๆ ที่บริษัทกำลังประกาศ ให้คลิกเข้าไปดูรายละเอียดว่าจะพลาดสิ่งใดไป
Trang này có thể chứa nội dung của bên thứ ba, được cung cấp chỉ nhằm mục đích thông tin (không phải là tuyên bố/bảo đảm) và không được coi là sự chứng thực cho quan điểm của Gate hoặc là lời khuyên về tài chính hoặc chuyên môn. Xem Tuyên bố từ chối trách nhiệm để biết chi tiết.
Hiểu các ký hiệu cổ phiếu CA và các ký hiệu khác trước khi đầu tư
เครื่องหมายท้ายหุ้นคืออะไร เพราะเราควรรู้
เมื่อคุณดูแอปพลิเคชันเทรดหุ้น คุณอาจสังเกตเห็นสัญลักษณ์ต่างๆ ที่ปรากฏหลังชื่อหุ้น เช่น CA, XM, XD, XN, T1, H, SP เป็นต้น นักลงทุนมือใหม่มักงงว่าตัวย่อเหล่านี้หมายถึงอะไร และสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุนหรือไม่
ความจริงแล้ว ตัวย่อเหล่านี้มีความสำคัญอย่างมากต่อการป้องกันความเสี่ยงและการวางแผนการลงทุน การทำความเข้าใจความหมายของแต่ละเครื่องหมายจะช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการตัดสินใจผิดพลาดและได้รับสิทธิประโยชน์ที่สมควร
เครื่องหมาย CA: สัญญาณการกระทำขององค์กร
CA ย่อมาจาก Corporate Action ซึ่งหมายความว่า “หุ้นตัวนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นภายในช่วง 7 วันนี้” เมื่อเห็นเครื่องหมายนี้ คุณสามารถคลิกเพื่อเปิดดูรายละเอียด จะแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นคืออะไร เกิดขึ้นเมื่อไร ตัวอักษรที่ตามหลัง CA จะระบุประเภทของการกระทำนั้น
ตัวอักษรท่ายหุ้นแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก แต่ละกลุ่มมีความหมายและผลกระทบต่างกัน
กลุ่มแรก: เครื่องหมายกลุ่ม “X” (Excluding - ไม่รวม)
เครื่องหมายประเภทนี้เริ่มต้นด้วยตัว X หมายความว่า “หากคุณซื้อหุ้นตอนที่มีตัว X คุณจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์บางอย่าง”
XD: ไม่ได้รับเงินปันผล
XD ย่อมาจาก Excluding Dividend ถ้าคุณซื้อหุ้นในช่วงที่มีตัว XD ข่วนคุณจะไม่ได้รับเงินปันผลในรอบนี้ อย่างไรก็ตาม หากคุณถือหุ้นต่อไปและรอจนกว่าจะขึ้น XD อีกรอบ คุณจะมีสิทธิรับเงินปันผลในรอบถัดไป
คำถามที่สำคัญ: วิธีรู้ว่าหุ้นจะขึ้น XD เมื่อไร?
จะต้องถือหุ้นนานแค่ไหนจึงได้เงินปันผล?
ผู้ที่ซื้อก่อนจะได้เงินปันผลมากกว่าหรือไม่?
XM: ไม่ได้รับสิทธิประชุมผู้ถือหุ้น
XM ย่อมาจาก Excluding Meetings นักลงทุนที่ซื้อขณะมี XM จะไม่สามารถเข้าร่วมประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นการประชุมสำคัญที่ผู้ถือหุ้นได้มีส่วนร่วมตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางและนโยบายของบริษัท
XW: ไม่ได้รับสิทธิซื้อหุ้น Warrant
XW ย่อมาจาก Excluding Warrant หุ้น Warrant เป็น “หุ้นลูก” ที่บริษัทออกให้ผู้ถือหุ้น สามารถแปลงเป็นหุ้นแม่ได้ หากคุณซื้อหุ้นขณะมี XW คุณจะพลาดโอกาสในการจองซื้อหุ้น Warrant นี้
XS: ไม่ได้รับสิทธิซื้อหุ้น Warrant ระยะสั้น
XS ย่อมาจาก Excluding Short-term Warrant คล้ายกับ XW แต่จำกัดเฉพาะหุ้น Warrant ระยะสั้นเท่านั้น
XR: ไม่ได้รับสิทธิจองซื้อหุ้นออกใหม่
XR ย่อมาจาก Excluding Right หากบริษัทออกหุ้นใหม่เพื่อเพิ่มทุน (มักเรียกว่า “หุ้นเพิ่มทุน”) ผู้ที่ซื้อขณะมี XR จะไม่ได้สิทธิจองซื้อหุ้นใหม่เหล่านี้ เหตุผลที่บริษัทออกหุ้นเพิ่มทุนมักเนื่องจากพบโอกาสธุรกิจที่ดีแต่ต้องการเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อขยายตัว
XT: ไม่ได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้
XT ย่อมาจาก Excluding Transferable Subscription Right เมื่อบริษัทออกหุ้นเพิ่มทุน จะมีใบสำคัญแสดงสิทธิให้ผู้ถือหุ้น หากซื้อขณะมี XT คุณจะไม่ได้รับเอกสารนี้
XI และ XP: ไม่ได้รับดอกเบี้ยและเงินต้น
XI (Excluding Interest) หมายความว่าคุณจะไม่ได้รับดอกเบี้ย ส่วน XP (Excluding Principal) หมายความว่าคุณจะไม่ได้รับเงินต้นที่บริษัทประกาศจ่ายคืน
XA: ไม่ได้รับสิทธิใดๆ เลย
XA ย่อมาจาก Excluding All นี่คือเครื่องหมายที่ครอบคลุมทั้งหมด หากซื้อขณะมี XA คุณจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ใดๆ ที่บริษัทกำลังประกาศ ให้คลิกเข้าไปดูรายละเอียดว่าจะพลาดสิ่งใดไป
XE: ไม่ได้รับสิทธิในการแปลงตราสารสิทธิ
XE ย่อมาจาก Excluding Exercise นักลงทุนจะไม่สามารถนำตราสารสิทธิมาแปลงเป็นหุ้นอ้างอิงได้
XN: ไม่ได้รับเงินคืนจากการลดทุน
XN ย่อมาจาก Excluding Capital Return หากบริษัทตัดสินใจลดทุน (ซึ่งทำเพื่อปรับเงินทุนให้เหมาะสม โดยเฉพาะบริษัทที่มีผลขาดทุนสะสมมากมาย) ผู้ที่ซื้อขณะมี XN จะไม่ได้รับเงินคืนจากการลดทุนนั้น
XB: ไม่ได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆ
XB ย่อมาจาก Excluding Other Benefit หมวดหมู่นี้ครอบคลุมสิทธิอื่นๆ เช่น หุ้นบุริมสิทธิที่จัดสรร หุ้นสามัญให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ หรือหลักทรัพย์ของบริษัทในเครือ
กลุ่มที่สอง: เครื่องหมายกลุ่ม “T” (Trading Alert - การเตือนการซื้อขาย)
เครื่องหมายท้ายหุ้นประเภท T ปรากฏเมื่อหุ้นมีการพุ่งตัวอย่างรวดเร็ว หรือมีการเก็งกำไรสูง ตลาดหลักทรัพย์จึงออกมาตรการควบคุมเพื่อลดความความผันผวนและปกป้องนักลงทุน ระบบนี้มี 3 ระดับ
T1: ระดับเตือนแรก
T1 ย่อมาจาก Trading Alert Level 1 ขั้นตอนแรกของการปกป้อง หุ้นที่ติด T1 ต้องซื้อจากบัญชี Cash Balance เท่านั้น (บัญชีเงินสดทั่วไป) เครื่องหมายนี้จะติดไว้ 3 สัปดาห์
T2: ระดับเตือนที่สอง
T2 ย่อมาจาก Trading Alert Level 2 หากหุ้น T1 ยังคงตัดสินตามเกณฑ์หลังจากประกาศแล้วไม่เกิน 1 เดือน จะถูกเพิ่มระดับเป็น T2 นอกจากต้องซื้อจาก Cash Balance เท่านั้น คุณยังห้ามนำหุ้นนี้มาเป็นหลักประกัน เครื่องหมายจะติดไว้อีก 3 สัปดาห์
T3: ระดับเตือนที่สาม (ระดับสูงสุด)
T3 ย่อมาจาก Trading Alert Level 3 นี่คือระดับสูงสุด หากหุ้น T2 ยังตัดสินตามเกณฑ์หลังจากประกาศไม่เกิน 1 เดือน จะถูกเพิ่มเป็น T3 ในกรณีนี้ คุณต้องซื้อจาก Cash Balance เท่านั้น ห้ามใช้เป็นหลักประกัน และที่สำคัญที่สุด ห้ามหักกลบ (Settlement)
หักกลบหมายความว่า ปกติหากคุณซื้อหุ้น 10,000 บาท แล้วขายออกไป อำนาจการซื้อจะกลับมาในทันที แต่หากเป็นหุ้น T3 หลังจากขาย อำนาจการซื้อจะไม่กลับมาจนกระทั่งวันถัดไป มาตรการนี้ช่วยจำกัดการซื้อขายหลายรอบในวันเดียวกัน
กลุ่มที่สาม: เครื่องหมายเตือนความเสี่ยง
กลุ่มนี้ประกอบด้วยเครื่องหมายที่แจ้งให้นักลงทุนระมัดระวัง
H: หยุดการซื้อขายชั่วคราว
H ย่อมาจาก Trading Halt หุ้นหยุดซื้อขายชั่วคราว 1 รอบการซื้อขาย (ใน 1 วันมี 2 รอบ คือเช้าและบ่าย) สาเหตุมักเป็นเพราะมีข่าวสำคัญหลุดออกมา แต่บริษัทยังไม่ได้แจ้งอย่างเป็นทางการต่อตลาดหลักทรัพย์
SP: หยุดการซื้อขายเนื่องจากการระงับ
SP ย่อมาจาก Trading Suspension การหยุดซื้อขายนี้นานกว่า H ปกติมากกว่า 1 รอบการซื้อขาย สาเหตุอาจเหมือน H เช่น ข่าวสำคัญที่บริษัทยังไม่ได้รายงาน หรือบริษัทไม่ส่งงบการเงินตามระยะเวลา
NP และ NR: การแจ้งและการรับแจ้ง
NP ย่อมาจาก Notice Pending บริษัทมีเรื่องที่ต้องรายงานให้ตลาดหลักทรัพย์ทราบ เมื่อรายงานเรียบร้อย NP จะเปลี่ยนเป็น NR (Notice Received) ซึ่งหมายความว่าตลาดหลักทรัพย์ได้รับการชี้แจงรายการแล้ว
NC: ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด
NC ย่อมาจาก Non-Compliance บริษัทเข้าเงื่องไขการถูกเพิกถอนออกจากตลาดหุ้น สาเหตุอาจมาจากการขาดทุนต่อเนื่องเป็นเวลานาน หรือไม่ส่งงบการเงิน เมื่อถูก NC บริษัทจะมีเวลา 1 ปีในการแก้ไข เช่น ถ้าปัญหาคือการไม่ส่งงบการเงิน บริษัทต้องทำการเคลียร์เอกสารและจัดส่งให้ครบถ้วน
ST: การสนับสนุนเสถียรภาพราคา
ST ย่อมาจาก Stabilization หุ้นกำลังอยู่ระหว่างการรักษาเสถียรภาพของราคา วิธีการทั่วไปคือบริษัททำ “Greenshoe” ซึ่งเป็นการออกหุ้น IPO (ครั้งแรกที่เพิ่งเข้าตลาดหลักทรัพย์) เกินจำนวนที่กำหนด เพื่อใช้ในการประคองราคาไม่ให้ตกต่ำกว่าราคา IPO ในระยะเวลา 30 วัน
C: เตือนข้อควรระวัง
C ย่อมาจาก Caution เครื่องหมายนี้ปรากฏเมื่อบริษัทมีปัญหา มีความเสี่ยงด้านการเงินสูง เป็นการเตือนให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นนี้ไปก่อน
สัญญาณของ C รวมถึง:
ปัญหาทางการเงิน:
ปัญหางบการเงิน:
ปัญหาธุรกิจ:
บัญชี Cash Balance คืออะไร
ถ้าคุณเห็นคำว่า Cash Balance ในเครื่องหมาย T แล้วสับสน ให้รู้ว่า Cash Balance คือบัญชีเงินสด คุณมีเงินในบัญชีเท่าไรก็ซื้อหุ้นได้เท่านั้น เป็นบัญชีที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุนมือใหม่เพราะจำกัดวงเงิน
บทสรุป
เครื่องหมายหุ้น CA และตัวย่อต่างๆ เป็นเครื่องมือสำคัญที่ตลาดหลักทรัพย์ใช้เพื่อให้นักลงทุนทราบเหตุการณ์และความเสี่ยง การทำความเข้าใจความหมายของแต่ละเครื่องหมายจะช่วยให้คุณป้องกันการสูญเสียสิทธิประโยชน์ หลีกเลี่ยงความเสี่ยง และตัดสินใจลงทุนอย่างชาญฉลาด
เมื่อคุณเห็นเครื่องหมายเหล่านี้ในแอปพลิเคชันเทรด ให้คลิกเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเสมอ เพราะข้อมูลนั้นอาจประกอบไปด้วยการตัดสินใจลงทุนของคุณในครั้งต่อไป