Trang này có thể chứa nội dung của bên thứ ba, được cung cấp chỉ nhằm mục đích thông tin (không phải là tuyên bố/bảo đảm) và không được coi là sự chứng thực cho quan điểm của Gate hoặc là lời khuyên về tài chính hoặc chuyên môn. Xem Tuyên bố từ chối trách nhiệm để biết chi tiết.
Tiền trắng (Silver) và cơ hội đầu tư bị bỏ qua: Liệu có thể đạt lợi nhuận vượt xa vàng không?
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ราคา Silver ได้ทำให้เห็นการเคลื่อนไหวที่เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ผ่านเหตุการณ์สำคัญ จนกระทั่งชุมชน นักลงทุนระหว่างประเทศ เริ่มหันมาให้ความสนใจกับสินทรัพย์นี้มากขึ้น คำถามที่เกิดขึ้นตามมาคือ เหตุใดจึงต้องให้ความสนใจกับเงินขาวแต่เพียงอย่างเดียว และสามารถสร้างเงินลงทุนได้มากกว่าการลงทุนในทองคำได้หรือไม่
ทำไมเงินขาวจึงน่าสนใจในขณะนี้
สินทรัพย์ที่ชื่อว่า Silver นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ มานานกว่า 4,000 ปีมาแล้ว โลหะชนิดนี้ถูกใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนคุณค่าและการเก็บรักษาทรัพยากร ตั้งแต่ยุคแรมเมสส์ จนถึงยุคสมัยของสหรัฐอเมริกาสมัยใหม่ เงิน (Silver) ได้ทำหน้าที่เป็นเหรียญสกุลเงินที่ถูกยอมรับทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ในยุคปัจจุบัน สิ่งที่ผลักดันราคา Silver ไปข้างหน้าไม่ใช่มาจากบทบาทเพื่อการสะสม แต่เกิดจากความต้องการที่มาจากภาค อุตสาหกรรมเทคโนโลยี ที่กำลังเติบโตเป็นอันดับหนึ่ง
คุณสมบัติเฉพาะของเงินขาวที่ทองคำไม่มี
ความแตกต่างระหว่างสินทรัพย์โลหะเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องนอย หากแต่ Silver นั้นมีคุณสมบัติเหนือกว่าในด้านประยุกต์ใช้งาน:
การนำไฟฟ้าและความร้อนที่ดีที่สุดในโลก: Silver นำความเป็นลิ่ว (conductor) ที่ยอดเยี่ยมกว่าโลหะใดๆ ทำให้มันกลายเป็นองค์ประกอบจำเป็นในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่สมาร์ตโฟนจนถึงวงจรไฟฟ้าขั้นสูง
ประสิทธิภาพในการสะท้อนแสง: คุณสมบัตินี้ทำให้ Silver มีบทบาทกำหนดใจในเซลล์แสงอาทิตย์สมัยใหม่ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการแปลงพลังงาน
ระบบป้องกันเชื้อแบคทีเรีย: การใช้งานใน ผ้าพัฒนาสำหรับผู้ป่วยเพื้นผิว เครื่องมือสำหรับห้องผ่าตัด และระบบกรองน้ำขั้นสูง ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยคุณสมบัตินี้
สิ่งเหล่านี้คือเหตุผลที่ Silver ถูกมองว่าเป็นอัญมณีจริงของยุคดิจิทัล สำหรับวงจรรถยนต์ไฟฟ้า, โครงสร้างโลก 5G, ระบบอัจฉริยะและอื่นๆ
อุปสงค์ เมื่อเทียบกับปริมาณที่มีให้
ภาพถ่ายสถานการณ์ตลาดล่าสุดจาก World Silver Survey 2025 ของ The Silver Institute เปิดเผยความเป็นจริงที่อาจจะทำให้หลายคนตกใจ: ตลาด Silver กำลังเผชิญกับภาวะ “อุปทานที่ไม่สามารถตอบสนองได้” (Structural Deficit)
ข้อมูลที่เพิ่งเข้ามาแสดงให้เห็นว่า:
อุปสงค์จากภาคการผลิต ได้ทำสถิติใหม่ที่ 680.5 ล้านออนซ์ในปี 2024 ซึ่งคิดเป็นราว 59% ของอุปสงค์รวมทั้งหมด ส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด ยานพาหนะไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ 5G และเทคโนโลยี AI
อุปทานกลับเผชิญกับอุปสรรค: การผลิต ผลพลอยได้จากการขุดแร่อื่นๆ (ตะกั่ว สังกะสี ทองแดง) และคงคลังที่ไม่เพียงพอ ล้วนแล้วแต่ทำให้ Silver ขาดมาเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน
มันเหมือนกับเกมของจิตวิทยาตลาด: เมื่อสิ่งที่หายากพบกับความต้องการที่แข็งแกร่ง ราคาจะต้องปรับตัว
Gold/Silver Ratio: ตัวชี้วัดที่นักลงทุนควรรู้จัก
เครื่องมือวัดผลว่า Silver ถูกหรือแพง เมื่อเทียบกับทองคำ เรียกว่า Gold/Silver Ratio (GSR) บอกเราว่าต้องใช้ Silver กี่ออนซ์เพื่อซื้อทองคำ 1 ออนซ์
ประวัติศาสตร์ของอัตราส่วนนี้เล่าให้เห็นว่า:
ในช่วงวิกฤตแพร่ระบาด 2020 เมื่อความกลัวเป็นเครื่องขับเคลื่อนตลาด GSR พุ่งสูงไปถึง 124:1 (ทองคำแพง Silver มากในขณะนั้น)
ในปี 2011 ตอนที่ความเชื่อมั่นกลับมา GSR หดลงเหลือ 31:1 (Silver ได้รับการประเมินค่าสูงขึ้น)
ปัจจุบัน GSR ยังอยู่ในระดับ 84:1 ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตลาดยังไม่ได้ให้ราคาที่เต็มหน่วยกับศักยภาพของ Silver ด้านการใช้งานทางอุตสาหกรรม
เปรียบเทียบจำหน่ายทั่วไประหว่างเงินขาวและทองคำ
ด้วยความผันผวนที่สูงกว่า นักลงทุนที่มีเชื้อโครงสร้างการรับความเสี่ยงสูงกว่าอาจเห็นว่า Silver นั้นมีศักยภาพที่ยิ่งใหญ่กว่า ทั้งในตลาดขาลงและขาขึ้น
เส้นทางสำหรับการลงทุนใน Silver ของนักลงทุนไทย
สำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตลาด Silver มีวิธีการที่หลากหลาย ตั้งแต่แบบดั้งเดิมไปจนถึงสมัยใหม่
1. เงินขาวกายภาพ: การลงทุนแบบจับต้องได้
การถือครอง Silver ในรูปแบบแท่งหรือเหรียญเป็นวิธีที่เก่าแก่ที่สุด ผู้ประกอบการที่เชื่อถือได้ในประเทศไทย เช่น Ausiris, MTS Gold, Bowins Silver และ SNP Gold ล้วนมีจุดขายในพื้นที่สำคัญ
ข้อดี: เป็นเจ้าของสินทรัพย์จริง, ไม่มีความเสี่ยงจากคู่สัญญา
ข้อเสีย: ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก, ต้นทุนการจัดเก็บและประกันภัย, สภาพคล่องต่ำ
2. หลักทรัพย์และกองทุน: วิธีการอ้อมตัว
กองทุนเช่น DAOL-SILVER ให้โอกาสทางอ้อมในการเข้าถึง Silver ผ่านการลงทุนในบริษัทเหมืองแร่ระดับโลก
ข้อดี: มีสภาพคล่องสูง, ไม่ต้องกังวลการจัดเก็บ
ข้อเสีย: มีความเสี่ยงเฉพาะตัวของแต่ละบริษัท, อาจไม่สอดคล้องกับราคา Silver 100%
3. สัญญาฟิวเจอร์ส: สำหรับนักลงทุนประสบการณ์
TFEX Silver Online Futures เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่เข้าใจตลาดอนุพันธ์
ข้อดี: ใช้เงินลงทุนน้อยเมื่อเทียบกับมูลค่า, ทำกำไรทั้งสองทิศ
ข้อเสีย: ความเสี่ยงสูงมาก, ต้องมีความรู้ลึกเกี่ยวกับตลาด
4. CFD (Contract for Difference): ทางเลือกยุคใหม่
การเทรด Silver CFD (XAGUSD) เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เพราะมีความยืดหยุ่นและการเข้าถึงที่ง่าย
ข้อดี:
ข้อเสีย: ความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจ, ต้องเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ
สำหรับนักลงทุนไทย แพลตฟอร์มเช่น Mitrade นำเสนอทางเลือกที่ราคาถูก: ไม่มีค่าคอมมิชชั่น, สเปรดต่ำ, และเงินฝากเริ่มต้นเพียง $50 มีเงินทดลองฟรี $50,000 และโบนัสสำหรับลูกค้าใหม่ $100
ข้อจำกัดและความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา
ไม่ว่า Silver จะน่าสนใจแค่ไหน ก็มีด้านลบที่ไม่ควรมองข้าม:
ความผันผวนสูง: ราคาสามารถเปลี่ยนแปลงอย่างมากในเวลาสั้น ซึ่งจะดีหากราคาขึ้น แต่อาจเป็นภัยหากราคาลง
ความอ่อนไหวต่อวัฏจักรเศรษฐกิจ: เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว ความต้องการจากภาคอุตสาหกรรมลดลง ซึ่งกระทบต่อราคา Silver มากกว่าทองคำ
ไม่มีผลตอบแทนจากดอกเบี้ย: เงินที่คุณได้มาจะมาจากส่วนต่างของราคา (Capital Gain) เท่านั้น
ความท้าทายในการจัดเก็บ: หากเลือกวิธีกายภาพ ต้นทุนและความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น
สรุป: Silver ก็คือการลงทุนสำหรับยุคข้างหน้า
Silver ไม่ใช่เพียงแค่ “โลหะราคาถูก” อีกต่อไป แต่ได้กลายมาเป็นสินทรัพย์ที่จำเป็นต่ออนาคตของเทคโนโลยี ด้วยภาวะอุปทานที่ไม่ยืดหยุ่น, อุปสงค์ที่เติบโตจากอุตสาหกรรมสมัยใหม่, และการประเมินราคาที่ยังต่ำกว่าทองคำในเชิงประวัติศาสตร์ Silver นำเสนอโอกาสที่ไม่น้อย
ไม่ว่าจะเลือกวิธีใดในการลงทุน สิ่งสำคัญที่สุดคือการเข้าใจว่าคุณกำลังลงทุนในอะไร และสำเร็จแค่ไหนในการรับความเสี่ยง การศึกษาและการวางแผนอย่างรอบคอบจึงเป็นกุญแจสำคัญต่อความสำเร็จของการลงทุนใน Silver ของคุณ