เพื่อตอบสนองต่อความกังวลของชุมชนเมื่อเร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับ "การเพิ่มอุปทานโทเค็น" Ravindra Kumar ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Self Chain ได้โพสต์บนแพลตฟอร์ม X เพื่อตอบสนองต่อข้อสงสัยและอาการกลัวที่จะตกกระแส Kumar ระบุว่า Self Chain ไม่ใช่ทีมใหม่ที่รับมือ แต่เป็นการเรียกคืนทางกลยุทธ์ของทีมเดิม โดยขยายโครงการกระเป๋าเงินเป็นโซลูชั่น Layer 1 ของบล็อกเชนที่ใช้ Cosmos-SDK เกี่ยวกับการเพิ่มจำนวนโทเค็น Kumar อธิบายการจัดสรรทั้งหมด 3.6 พันล้านเหรียญของการจัดหาทุน: 36 ล้านถูกล็อกไว้เป็นตลอดเวลาสำหรับโหนดมูลนิธิ 90 ล้านถูกย้ายจาก FRONT ไปยัง SLF 1 ล้านถูกจัดสรรให้กับนักลงทุนใหม่เป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้อง (มีระยะเวลาล็อก 18 เดือน) 36 ล้านถูกจัดสรรให้กับนักลงทุนหุ้น (มีระยะเวลาล็อก 36 เดือน) 30 ล้านถูกจัดสรรให้กับทีมหลัก (มีระยะเวลาล็อก 6 ปี) 68 ล้านถูกใช้สำหรับนิเทศระบบนิเวศ (ปล่อยเป็นจำนวนเงิน 150 ล้านต่อเดือน) Kumar ระบุว่าการเพิ่มจำนวนโทเค็นเพื่อเสริมความมั่นคงของเครือข่าย ป้องกันการโจมตี และดึงดูดนักลงทุนและผู้ตรวจสอบความถูกต้องมาเข้าร่วม
ผู้ก่อตั้ง Self Chain: เพิ่มการจัดหาโทเค็นเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยของเครือข่าย
เพื่อตอบสนองต่อความกังวลของชุมชนเมื่อเร็ว ๆ นี้เกี่ยวกับ "การเพิ่มอุปทานโทเค็น" Ravindra Kumar ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Self Chain ได้โพสต์บนแพลตฟอร์ม X เพื่อตอบสนองต่อข้อสงสัยและอาการกลัวที่จะตกกระแส Kumar ระบุว่า Self Chain ไม่ใช่ทีมใหม่ที่รับมือ แต่เป็นการเรียกคืนทางกลยุทธ์ของทีมเดิม โดยขยายโครงการกระเป๋าเงินเป็นโซลูชั่น Layer 1 ของบล็อกเชนที่ใช้ Cosmos-SDK เกี่ยวกับการเพิ่มจำนวนโทเค็น Kumar อธิบายการจัดสรรทั้งหมด 3.6 พันล้านเหรียญของการจัดหาทุน: 36 ล้านถูกล็อกไว้เป็นตลอดเวลาสำหรับโหนดมูลนิธิ 90 ล้านถูกย้ายจาก FRONT ไปยัง SLF 1 ล้านถูกจัดสรรให้กับนักลงทุนใหม่เป็นผู้ตรวจสอบความถูกต้อง (มีระยะเวลาล็อก 18 เดือน) 36 ล้านถูกจัดสรรให้กับนักลงทุนหุ้น (มีระยะเวลาล็อก 36 เดือน) 30 ล้านถูกจัดสรรให้กับทีมหลัก (มีระยะเวลาล็อก 6 ปี) 68 ล้านถูกใช้สำหรับนิเทศระบบนิเวศ (ปล่อยเป็นจำนวนเงิน 150 ล้านต่อเดือน) Kumar ระบุว่าการเพิ่มจำนวนโทเค็นเพื่อเสริมความมั่นคงของเครือข่าย ป้องกันการโจมตี และดึงดูดนักลงทุนและผู้ตรวจสอบความถูกต้องมาเข้าร่วม