Tahun 2568, saham bank mana yang harus dipilih? Mengupas tuntas 12 kandidat teratas di tingkat Asia dan dunia

Investasi saham bank merupakan strategi yang menarik perhatian banyak pihak di dunia investasi, terutama bagi mereka yang mencari aliran pendapatan tetap melalui dividen dan peningkatan nilai investasi jangka panjang. Tetapi pertanyaan yang masih tersisa adalah bank mana yang sebaiknya dipilih yang benar-benar memberikan imbal hasil dan kestabilan yang cukup? Artikel ini akan memandu Anda menganalisis 12 saham bank yang menunjukkan tren investasi menarik di tahun 2568, baik di pasar Thailand maupun pasar global.

Kelompok Bank Thailand: Siapa Pemimpin Pasar?

Pasar keuangan Thailand memiliki 6 bank unggulan dengan basis modal yang kuat, yang dipantau secara dekat oleh analis dan investor institusional. Struktur perbandingan adalah sebagai berikut

Nama saham (Ticker) Nama perusahaan lengkap Pasar Nilai (juta Baht) P/E (kali) Dividen (%)
BBL ธนาคารกรุงเทพ SET 275,000 7.5 4.8
KBANK ธนาคารกสิกรไทย SET 300,000 7 5.2
SCB บริษัท เอสซีบี เอกซ์ SET 350,000 9 4
KTB ธนาคารกรุงไทย SET 240,000 6.5 5.5
TTB ธนาคารทหารไทยธนชาต SET 170,000 8 5
BAY ธนาคารกรุงศรีอยุธยา SET 220,000 7.8 3.5

BBL - ฐานการเงินที่มั่นคง

ธนาคารกรุงเทพยืนหยัดด้วยสถานะการเงินที่มั่นคงแข็งแกร่ง ถือเป็นผู้นำด้านสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และเป็นเจ้าของเครือข่ายสาขาต่างประเทศที่กว้างขวางที่สุด ความหลากหลายนี้ช่วยลดความเสี่ยงและสร้างช่องทางรายได้ต่างประเทศ

บล.แอลเอช (LH Securities) คาดการณ์ว่า BBL จะมีการเติบโตของกำไรสูงสุดในกลุ่มธนาคารตลอดปี โดยให้ราคาเป้าหมาย 178 บาท พร้อมประวัติการจ่ายปันผลที่สม่ำเสมอ ทำให้นักลงทุนแนวอนุรักษ์นิยมสนใจ แต่บล.ทิสโก้ ปรับลดเป้าหมายลงเหลือ 161 บาท พร้อมเตือนให้ติดตามคุณภาพสินทรัพย์อย่างใกล้ชิด

KBANK - ผู้นำด้าน Digital Banking

ธนาคารกสิกรไทยเป็นผู้นำด้านการให้บริการลูกค้ารายย่อยและกลุ่ม SME โดยเฉพาะผ่านแอปพลิเคชัน K PLUS ที่มีฐานผู้ใช้จำนวนมากและคุณสมบัติหลากหลาย อย่างไรก็ตาม พอร์ตสินเชื่อ SME ขนาดใหญ่มาพร้อมความเสี่ยงด้าน NPLs ที่ต้องติดตาม

บล.เคจีไอ (KGI Securities) เลือก KBANK เป็นหุ้นเด่นของกลุ่ม ส่วนบล.เอเซีย พลัส มองว่า KBANK มี Dividend Yield ในช่วง 4-5% และคาดว่าจะมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อในปี 2568 เหตุผลหลักมาจากการลงทุนต่อเนื่องในบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพที่อาจสร้างปัจจัยเติบโตใหม่

SCB - การเปลี่ยนผ่านสู่ FinTech

บริษัท เอสซีบี เอกซ์ อยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่เพื่อเข้าสู่บทบาท FinTech โดยเน้นการสร้างแพลตฟอร์ม ลงทุนเทคโนโลยีสมัยใหม่ และสินทรัพย์ดิจิทัล โอกาสการเติบโตแบบก้าวกระโดดมีอยู่จริง แต่มาพร้อมความเสี่ยงจากการลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้

บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า SCB มีคุณสมบัติ Dividend Yield สูงถึง 6-8% ขณะที่บล.บัวหลวง แนะนำให้ถือเพื่อเก็บปันผล ซึ่งเหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสดมั่นคง

KTB - ช่องทางการเงินของรัฐ

ฐานะของ KTB ในฐานะธนาคารพาณิชย์ของรัฐนั้น ยืนหยัดโดยการเป็นช่องทางหลักในโครงการต่างๆ ของภาครัฐ แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ที่มีผู้ใช้งานกว้างขวางเป็นจุดเด่น แต่ความท้าทายคือการแปลงฐานข้อมูลและผู้ใช้นี้ให้เป็นรายได้ที่ยั่งยืน

บล.กสิกรไทย เลือก KTB เป็นหุ้นเด่น พิจารณาจากสินเชื่อภาครัฐที่คาดว่าจะเติบโต คุณภาพสินทรัพย์ที่แข็งแกร่ง และ NPLs ที่ต่ำกว่าธนาคารเอกชน ฝั่งบล.เอเซีย พลัส จัดไว้ในกลุ่ม Dividend Yield 4-5%

TTB - ผลประโยชน์รวมจากการควบรวม

ธนาคารทหารไทยธนชาต เกิดจากการควบรวมกิจการของสองสถาบัน ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการสร้างผลประโยชน์ร่วม (Synergy) โดยเน้นการให้บริการลูกค้าบุคคลและกลุ่มความมั่งคั่ง การลดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (Cost to Income Ratio) เป็นตัวชี้วัดสำคัญ

บล.กสิกรไทย เลือก TTB เป็นหุ้นเด่น แม้กำไรปี 2568 อาจลดลงเล็กน้อย แต่คาดว่า Downside จำกัดจากแผนบริหารเงินทุนที่ก้าวหน้า บล.ดาโอ ตั้ง TTB เป็น Top Pick โดยเห็นว่าได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงดอกเบี้ยน้อยกว่า และมี Tax Shield ที่มีประโยชน์ Dividend Yield อาจสูงถึง 6-8%

BAY - สัญญาณจากญี่ปุ่น

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็น Mitsubishi UFJ Financial Group ซึ่งเป็นกลุ่มการเงินชั้นนำของญี่ปุ่น สนับสนุนด้านเงินทุน เทคโนโลยี และเครือข่ายธุรกิจโลก BAY มีความแข็งแกร่งในสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อและบุคคล

บล.อินโนเวสท์เอกซ์ รักษาราคาเป้าหมายที่ 25 บาท ขณะบล.ทิสโก้ ปรับลดเล็กน้อยเหลือ 25.50 บาท

ตัวเต็งธนาคารนอก: ขุมทรัพย์ระดับโลก

นอกเหนือจากตลาดไทย ยังมี 6 หุ้นธนาคารระดับโลกที่สร้างโอกาสลงทุนน่าสนใจ

ชื่อหุ้น (Ticker) บริษัท ตลาด มูลค่า (ล้านบาท) P/E (เท่า) ปันผล (%)
JPM JPMorgan Chase & Co. NYSE 18,500,000 11.5 2.5
BAC Bank of America NYSE 11,000,000 10 2.8
HSBC HSBC Holdings plc LSE/HKEX 5,000,000 6.5 6
DBS DBS Group Holdings SGX 2,500,000 10.5 4.5
ICBC (1398.HK) Industrial and Commercial Bank of China HKEX 7,500,000 4 6.5
MUFG (8306.T) Mitsubishi UFJ Financial Group TSE 4,000,000 9.5 3

JPM - ราชาธนาคารสหรัฐฯ

JPMorgan Chase & Co. เป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เมื่อวัดจากมูลค่าตลาด ธุรกิจครอบคลุมทั้ง Retail Banking, Investment Banking, Wealth Management และ Asset Management ด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่ง JPM ถือเป็น Core Holding สำหรับนักลงทุนสถาบันทั่วโลก

J.P. Morgan Private Bank มองในแง่บวกต่อปี 2025 ภายใต้ธีม “Building on Strength” ชี้ให้เห็นปัจจัยหนุนจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายและการเร่งลงทุน AI

BAC - อีกตัวเต็งของสหรัฐ

Bank of America เป็นธนาคารอันดับสองในสหรัฐฯ เน้นการให้บริการลูกค้ารายย่อยเป็นหลัก เก็บสัดส่วนเงินฝากกระแสรายวันและออมทรัพย์สูง ทำให้ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นมาก แต่ก็มีความเสี่ยง NPLs หากเศรษฐกิจชะลอตัว

Warren Buffett ถือหุ้นใน Berkshire Hathaway ในสัดส่วนสูง ซึ่งบ่งบอกความน่าเชื่อถือของหุ้นนี้ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มีความเห็นแตกต่างกัน บางรายทำนายแนวโน้มลดลงในปี 2568 บางรายคาดราคาจะอยู่ที่ 47.65 ดอลลาร์ภายในธันวาคม

HSBC - ประตูเชื่อมโยงตะวันออก-ตะวันตก

HSBC Holdings plc มีฐานธุรกิจที่กระจายทั่วสหราชอาณาจักรและเอเชีย โดยเฉพาะฮ่องกงและจีน โอกาสเติบโตมาจากการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างตลาดตะวันตกและตะวันออก แต่ก็มีความเสี่ยงจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์

DBS - ผู้นำอาเซียน

DBS Group Holdings Ltd ยืนหยัดเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนตะวันออกเฉียงใต้ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ ได้รับการยอมรับด้าน Digital Banking และนวัตกรรม คาดการณ์ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นเกณฑ์

ICBC - ยักษ์ใหญ่ของจีน

Industrial and Commercial Bank of China Limited เป็นธนาคารที่มีสินทรัพย์ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นธนาคารของรัฐจีน การเติบโตขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจจีนอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในหุ้นธนาคารจีนมีความเสี่ยงพิเศษ ทั้งการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบอย่างรวดเร็ว ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์และ NPLs ที่อาจไม่โปร่งใส รวมถึงปัญหาธรรมาภิบาล แม้ P/E ต่ำ แต่สะท้อนความเสี่ยงดังกล่าว

MUFG - ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น

Mitsubishi UFJ Financial Group, Inc. เป็นกลุ่มการเงินที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น มีเครือข่ายทั่วโลก รวมถึงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน BAY ของไทย

MUFG อาจได้รับประโยชน์หากธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างจริงจังจากระดับติดลบ ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งสำคัญในรอบหลายปี อย่างไรก็ตาม การเติบโตของญี่ปุ่นเองอาจจำกัดจากปัญหาประชากรและเศรษฐกิจที่เติบโตช้า

ทำไมหุ้นธนาคารยังคงน่าสนใจในปี 2568?

หลังจากศึกษาตัวเต็งทั้ง 12 แล้ว คำถามต่อมาคือ อะไรคือสิ่งที่ยังดึงดูดความสนใจของนักลงทุน?

ปัจจัยที่สนับสนุนหุ้นธนาคาร:

  1. ดอกเบี้ยยังให้ผลบวก แม้ว่วงจรขาขึ้นอาจผ่านไปแล้ว แต่ระดับดอกเบี้ยปัจจุบันที่สูงกว่าช่วงโควิด-19 ยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM)

  2. ปันผลน่าดึงดูด ธนาคารขนาดใหญ่ที่มั่นคงมีประวัติจ่ายปันผลสม่ำเสมอ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในปี 2568

  3. เศรษฐกิจฟื้นตัว Goldman Sachs คาด GDP โลกโต 3.1% ในปี 2025, InnovestX คาด GDP ไทยโต 2.7% ซึ่งจะเพิ่มความต้องการสินเชื่อ

  4. ราคาถูก หลายตัวซื้อขายอยู่ที่ P/E และ P/BV ที่ยังคงอยู่ในระดับสม่ำเสมอ

  5. โมเดลธุรกิจดิจิทัล ธนาคารไม่ได้จำกัดบทบาทอีกต่อไป แต่กำลังพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงบริการต่างๆ ผ่านแอป เช่น K PLUS, SCB EASY, เป๋าตัง เป็นต้น

ช่องทางการลงทุนในหุ้นธนาคาร

ลงทุนในหุ้นธนาคารไทย

  1. เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ กับบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาต
  2. ฝากเงินเข้าบัญชี เพื่อสร้างวงเงินซื้อขาย
  3. ส่งคำสั่งซื้อขาย ผ่านแอปพลิเคชันหรือโปรแกรม Settrade Streaming

ลงทุนในหุ้นธนาคารต่างประเทศ

  1. ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ไทย โบรกเกอร์หลายแห่งมีบริการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศ สะดวกในการติดต่อและจัดการ

  2. CFD (Contract for Difference) เป็นตัวเลือกสำหรับผู้ต้องการเพิ่มกำลังซื้อผ่านระบบเลเวอเรจ ข้อดีคือ:

    • ใช้เงินเริ่มต้นน้อยกว่า
    • ทำกำไรจากตลาดขาขึ้นและขาลง
    • ความคล่องตัวสูง
    • ค่าธรรมเนียมต่ำ

ผู้สนใจ CFD ควรศึกษาเพิ่มเติมจากโบรกเกอร์ที่ให้บริการ ควรเลือกแพลตฟอร์มที่มีการควบคุมและเชื่อถือได้

สรุปการลงทุนหุ้นธนาคารปี 2568

หุ้นธนาคาร ยังคงเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจในกรอบของความหลากหลายของพอร์ต ทั้งจากมุมมองปันผลสม่ำเสมอ ความมั่นคงทางการเงิน และการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล

กลุ่มธนาคารไทยที่มีจุดเด่นด้านเสถียรภาพ และกลุ่มธนาคารต่างประเทศที่มีโอกาสเติบโตจากระดับเศรษฐกิจต่างๆ ล้วนเป็นเหตุผลในพอร์ต

การลงทุนในหุ้นธนาคารไทยสามารถทำได้ง่ายผ่านบัญชีหลักทรัพย์ของโบรกเกอร์ในประเทศ ส่วนการเข้าถึงตลาดต่างประเทศมีหลายช่องทาง ทั้งการลงทุนโดยตรงหรือผ่านสัญญา CFD สำหรับผู้ที่ต้องการความคล่องตัว

สิ่งสำคัญคือการศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ ให้ความสนใจต่อปัจจัยสำคัญ เช่น P/E Ratio, Dividend Yield, NPLs และ Cost to Income Ratio เพื่อให้การลงทุนในหุ้นธนาคารเป็นเครื่องมือสร้างความมั่งคั่งอย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว

Lihat Asli
Halaman ini mungkin berisi konten pihak ketiga, yang disediakan untuk tujuan informasi saja (bukan pernyataan/jaminan) dan tidak boleh dianggap sebagai dukungan terhadap pandangannya oleh Gate, atau sebagai nasihat keuangan atau profesional. Lihat Penafian untuk detailnya.
  • Hadiah
  • Komentar
  • Posting ulang
  • Bagikan
Komentar
0/400
Tidak ada komentar
  • Sematkan

Perdagangkan Kripto Di Mana Saja Kapan Saja
qrCode
Pindai untuk mengunduh aplikasi Gate
Komunitas
Bahasa Indonesia
  • 简体中文
  • English
  • Tiếng Việt
  • 繁體中文
  • Español
  • Русский
  • Français (Afrique)
  • Português (Portugal)
  • Bahasa Indonesia
  • 日本語
  • بالعربية
  • Українська
  • Português (Brasil)