ดีมานด์ (ดีมานด์) dan pasokan (Supply) bukanlah rumus ajaib, tetapi bahasa pasar. Ketika Anda memahami kekuatan mana yang menang di setiap periode, Anda bisa lebih memahami pasar dengan baik
Dalam praktiknya, menerapkan konsep ini membutuhkan latihan langsung, melihat harga, mempelajari pola, dan mencoba berulang kali sampai bisa mengenali pola dari angka di grafik. Belajar dari bermain adalah jalan tercepat menuju pemahaman yang sebenarnya
Lihat Asli
Halaman ini mungkin berisi konten pihak ketiga, yang disediakan untuk tujuan informasi saja (bukan pernyataan/jaminan) dan tidak boleh dianggap sebagai dukungan terhadap pandangannya oleh Gate, atau sebagai nasihat keuangan atau profesional. Lihat Penafian untuk detailnya.
Permintaan dan Penawaran: Kunci Utama dalam Membaca Pola Harga Pasar Keuangan
ถ้าคุณเคยสงสัยว่าราคาหุ้นนั้นขึ้นลงเพราะอะไร หรือทำไมบางครั้งราคาจึงวิ่งขึ้นแบบที่ไม่คาดคิด คำตอบอยู่ที่สิ่งที่เรียกว่า ดีมานด์ (Demand) dan pasokan (Supply) ซึ่งเป็นพลังที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังทุกการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด
ดีมานด์ dan pasokan คืออะไร
Dalam kesederhanaan, ดีมานด์คือแรงซื้อ ซัพพลายคือแรงขาย ทั้งสองนี้เป็นแรงตรงข้ามที่ดิ้นรนกันอยู่ตลอดเวลาในตลาด เมื่อแรงไหนแรงกว่า ราคาก็จะไปทางนั้น
ดีมานด์ (Demand):ความต้องการซื้อของผู้ลงทุน
ดีมานด์ไม่ใช่แค่ “อยากซื้อ” แต่เป็นปริมาณที่ผู้ซื้ออยากได้ในแต่ละระดับราคา เมื่อราคาต่ำ ผู้คนก็เตรียมซื้อมากขึ้น เมื่อราคาแพง ความต้องการซื้อก็ลดลง นั่นคือกฎธรรมชาติของตลาด
สิ่งที่ขับเคลื่อนดีมานด์:
ซัพพลาย (Supply):ปริมาณสินค้าที่มีให้ขาย
ซัพพลายคือจำนวนหุ้นหรือสินทรัพย์ที่ผู้ขายยินดีเสนอขายในแต่ละระดับราคา เมื่อราคาแพง ผู้ขายก็อยากขายมากขึ้น เมื่อราคาถูก การขายก็ชะลอลง
สิ่งที่ขับเคลื่อนซัพพลาย:
ดุลยภาพราคา:ที่ทั้งสองแรงพบกัน
ราคาที่เกิดขึ้นจริงในตลาดไม่ใช่ราคาสุ่มสี่สุ่มห้า แต่เกิดขึ้นที่จุดที่เส้นดีมานด์และเส้นซัพพลายตัดกัน นั่นคือจุดดุลยภาพ (Equilibrium)
ที่จุดนี้ ราคามีแนวโน้มที่จะค่อนข้างนิ่ง เพราะ:
ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเรื่อยๆ เพราะตลาดเสมอพยายามหาสมดุลใหม่
เมื่อประยุกต์ใช้ดีมานด์ซัพพลายกับหุ้น
หุ้นก็เป็นสินค้าเหมือนกัน จึงสามารถวิเคราะห์ด้วยกฎเดียวกันได้
ในการวิเคราะห์พื้นฐาน
ราคาหุ้นสูงขึ้น = ดีมานด์มี แรงซื้อแรง = นักลงทุนหลั่งไหลเข้า (มักเพราะข่าวบวก ผลประกอบการดี การคาดการณ์ยวัดนั่ง)
ราคาหุ้นลดลง = ซัพพลายมี แรงขายแรง = นักลงทุนอยากออก (มักเพราะข่าวลบ ผลประกอบการแย่ การระวังภัยเฉพาะหน้า)
ในการวิเคราะห์เทคนิค
นักเทรดใช้เครื่องมือเพื่อตรวจจับการไม่สมดุลของดีมานด์และซัพพลาย:
Price Action: ดูแท่งเทียน
Trend:
Support & Resistance:
เทคนิค Demand Supply Zone:เอาไปใช้ทำเงินได้จริง
วิธีที่นิยมในวงนักเทรด คือมองหาจังหวะที่ดีมานด์หรือซัพพลายเกินตัว ราคาจึงวิ่งแรงๆ (ขึ้นหรือลง) จากนั้นมาพักตัวสักพัก แล้วกลับมาวิ่งต่อในทิศทางเดิม
ตัวอย่างที่ 1:ขาขึ้นแบบต่อเนื่อง (Rally-Base-Rally หรือ RBR)
→ นักเทรดดาร์ด เข้าซื้อที่เบรคอ๊าท ฐาน ด้วยจุดตัดขาดทุนไว้ต่ำกว่าฐาน
ตัวอย่างที่ 2:ขาลงแบบต่อเนื่อง (Drop-Base-Drop หรือ DBD)
→ นักเทรดลงสั้น เข้าขายที่เบรคอ๊าท ฐาน ด้วยจุดตัดขาดทุนไว้สูงกว่าฐาน
ปัจจัยตลาดการเงินที่ส่งผลต่อดีมานด์ซัพพลาย
ไม่ใช่ราคาหุ้นตัวเดียวที่เปลี่ยนแปลง ปัจจัยทั้งหมดนี้พวมเข้ามาเกี่ยวข้อง:
ด้านดีมานด์:
ด้านซัพพลาย:
สรุปให้กระชับ
ดีมานด์ (ดีมานด์) dan pasokan (Supply) bukanlah rumus ajaib, tetapi bahasa pasar. Ketika Anda memahami kekuatan mana yang menang di setiap periode, Anda bisa lebih memahami pasar dengan baik
Dalam praktiknya, menerapkan konsep ini membutuhkan latihan langsung, melihat harga, mempelajari pola, dan mencoba berulang kali sampai bisa mengenali pola dari angka di grafik. Belajar dari bermain adalah jalan tercepat menuju pemahaman yang sebenarnya